โดย : Admin 05 ส.ค. 2568
"ปลัดฯ นัทรียา ร่วมเวทีเสวนานโยบายการท่องเที่ยวอาเซียน หนุนการตลาดร่วม เพื่อขับเคลื่อนภูมิภาคสู่ Single Destination”
วันที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ เกาะโบราไกย์ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมวันที่สองของการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 62 (62nd ASEAN NTOs Meeting) ซึ่งจัดควบคู่กับการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านนโยบายเพื่อจัดทำแผนรายสาขาด้านการท่องเที่ยวอาเซียนหลังปี พ.ศ. 2568 (ASEAN Tourism Sectoral Plan 2026-2030 Policy Workshop)
ในช่วงเช้าของการประชุม ปลัดฯ นัทรียาได้ร่วมเป็นผู้อภิปราย (Panelist) ในหัวข้อ "Elevating ASEAN’s Allure: A Unified and Innovative Marketing Strategy for 2025 and Beyond” โดยได้นำเสนอแนวคิดการจัดทำนโยบายด้านการตลาดและกรณีศึกษาจากประเทศไทยที่สามารถขยายผลสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อยกระดับความน่าดึงดูดใจของอาเซียนในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเดียวกัน (ASEAN as a Single Destination)
โดยปลัดฯ นัทรียาได้แบ่งปันแนวทางการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การจัดกิจกรรมขับรถท่องเที่ยวข้ามพรมแดน (Das Treffen 9) ซึ่งเป็นการรวมตัวของรถยนต์ซุปเปอร์คาร์จากหลายประเทศในอาเซียน รวมถึงการขยายแคมเปญการท่องเที่ยวแบบสองทางระหว่างอาเซียนกับประเทศพันธมิตร เช่น อินเดีย โดยเฉพาะกิจกรรม ASEAN-India Conference และแผนการเปิดตัวแคมเปญ "Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025” ซึ่งจะมอบสิทธิพิเศษแก่ชาวอินเดียที่เดินทางมายังประเทศไทยในช่วงเทศกาล
นอกจากนี้ ปลัดฯ นัทรียายังได้เน้นย้ำถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวผ่าน Soft Power ซึ่งเป็นจุดแข็งร่วมสำคัญของภูมิภาคอาเซียน เช่น เรื่องราววัฒนธรรมอาหาร (Gastronomy Tourism) และ การท่องเที่ยวฮาลาล (Halal Tourism) รวมถึงได้ยกตัวอย่างแคมเปญ 5 Must Do’s in Thailand (5 สิ่งที่ต้องทำในประเทศไทย) ได้แก่ Must Taste, Must Try, Must Buy, Must Seek และ Must See ซึ่งเป็นแนวทางด้านการตลาดที่สามารถปรับใช้ร่วมกันในภูมิภาคอาเซียน เพื่อขยายฐานตลาดและเพิ่มความหลากหลายของประสบการณ์นักท่องเที่ยวได้
ท้ายที่สุด ไทยได้เสนอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนแบ่งปันองค์ความรู้และยกระดับมาตรฐานร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และขีดความสามารถในการแข่งขันของอาเซียนในเวทีโลกอย่างเป็นรูปธรรม