“ก้าวต่อไปของฐานข้อมูลกีฬาไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดินหน้าต่อยอดการพัฒนาระบบสารานุกรมกีฬาประเทศไทย (Thailand Sports Almanac) ให้เป็นฐานข้อมูลกลางด้านการกีฬาของประเทศ”

โดย : Admin 21 ก.ค. 2568

"ก้าวต่อไปของฐานข้อมูลกีฬาไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดินหน้าต่อยอดการพัฒนาระบบสารานุกรมกีฬาประเทศไทย (Thailand Sports Almanac) ให้เป็นฐานข้อมูลกลางด้านการกีฬาของประเทศ”

วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรม Centara Life Hotel Bangkok Phra Nakorn กรุงเทพมหานคร นายเศกสันฐ์ ง้าวสุวรรณ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) เพื่อรวบรวมและระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาระบบสารานุกรมกีฬาประเทศไทย (Thailand Sports Almanac) ระยะที่ 2 ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนาให้ระบบมีความครบถ้วน สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยมีการเพิ่มเติมระบบข้อมูลที่จำเป็นต่อการพัฒนาการกีฬาของประเทศ ได้แก่ ข้อมูลศูนย์ฝึกกีฬา ข้อมูลศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ข้อมูลมาตรฐานบุคลากรทางการกีฬา ข้อมูลทะเบียนนักกีฬา ข้อมูลหลักสูตรการฝึกอบรม และข้อมูลผลการแข่งขันของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย

นายเศกสันฐ์ ง้าวสุวรรณ์ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดประชุมกลุ่มย่อยในครั้งนี้ ว่ามีบทบาทสำคัญในการรวบรวมข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบข้อมูลศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ศูนย์ฝึกกีฬา และศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานสำคัญ
ในการพลิกโฉมการพัฒนาการกีฬาของประเทศ โดยมุ่งเน้นการใช้ข้อมูลที่ครบถ้วน สมบูรณ์ และทันสมัย เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการกีฬา


ทั้งนี้ ระบบสารานุกรมกีฬาประเทศไทย (Thailand Sports Almanac) จะทำหน้าที่เป็น "คลังข้อมูลกลางด้านการกีฬา” ที่มีความครบถ้วน ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ เพื่อให้บริการข้อมูลที่แม่นยำและทันต่อสถานการณ์แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นด้านการกำหนดนโยบาย การจัดสรรงบประมาณ การติดตามประเมินผล ตลอดจนการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายในทุกระดับ เพื่อร่วมกัน
ขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาของประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีทิศทาง ชัดเจน และต่อเนื่องในระยะยาว


กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามุ่งมั่นที่จะยกระดับระบบสารสนเทศด้านกีฬาให้เป็นเครื่องมือสำคัญของประเทศ ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านข้อมูลเท่านั้น แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนการกีฬาไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต