โดย : Admin 19 ส.ค. 2567
พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โครงการฝึกอบรม "การพัฒนาสมรรถภาพผู้ปฏิบัติงานด้านการเงิน บัญชี และพัสดุ" ประจำปี 2567 รุ่นที่ 2
วันที่ 19 สิงหาคม 2567 เวลา 09.30 น. นางสาววนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร "การพัฒนาสมรรถภาพผู้ปฏิบัติงานด้านการเงิน บัญชี และพัสดุของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567" รุ่นที่ 2 โดยผู้เข้ารับการฝึกอบรมรุ่นที่ 2 ประกอบด้วย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ผู้ช่วยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงิน หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเงิน บัญชี และพัสดุในสังกัดสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภาคกลาง และภาคใต้ รวม 78 คน ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญจากกรมบัญชีกลาง ธนาคารกรุงไทย และข้าราชการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ตลอดหลักสูตร
นางสาววนิดา รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "ตามที่พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังภาครัฐ พ.ศ. 2561 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 และให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2561 เป็นต้นมานั้น เป็นการแสดงถึงเจตนารมณ์ที่ต้องการจะให้รัฐรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฐานะทางการเงินการคลังของรัฐมีเสถียรภาพและ มั่นคงอย่างยั่งยืนตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ โดยวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้ คือ ต้องการให้มีกฎหมายหลักเกี่ยวกับวินัยการเงินการคลัง ที่ชัดเจนและเคร่งครัด ซึ่งจะเป็นหลักการสำคัญที่จะนำไปสู่การกำกับดูแลและการบริหาร ด้านการคลังที่ดี ส่งเสริมให้เกิดเสถียรภาพและความมั่นคงทางการคลังในระยะยาว สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว ประกอบกับสภาพปัญหาปัจจุบันที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานด้านการเงิน บัญชี และพัสดุ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ทั้งในเนื้อหาสาระและแนวทางปฏิบัติ รวมทั้งบทลงโทษทางปกครองตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินในกรณีมีการกระทำผิดวินัยการเงินการคลังของรัฐตามพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว เพื่อให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทราบ เข้าใจ และสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนเกิดความตระหนักถึงความสำคัญในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฯ อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน จนเกิดความเสียหายต่อตนเอง
ในฐานะผู้ปฏิบัติ และความเสียหายต่อหน่วยงาน”