ตามที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท ภายในปี 2558 นั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการนำของ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในขณะนั้น ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะรักษาศักยภาพของประเทศไทย ทั้งด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เป็นผู้นำในระดับภูมิภาคและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น โดยการสนับสนุน แผนส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ และจากสถิติในปี พ.ศ.2555 พบว่านักท่องเที่ยวเดินทาง เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย สูงถึง 22.3ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ.๒๕๕๔ คิดเป็นร้อยละ 15.98 และสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 9 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์เอาไว้และเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นอย่างมาก เมื่อมีแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่เหตุอาชญากรรม และการหลอกลวงนักท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆจากกลุ่มมิจฉาชีพก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ทางด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เล็งเห็นความสำคัญ จึงให้มีการจัดตั้ง สำนักแก้ไขปัญหาการหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (สกช.)ขึ้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย สำนักแก้ไขปัญหาการหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (สกช.)ได้ดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยทำหน้าที่ประสานข้อมูลและเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี และส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในลำดับต่อไป ทำให้คดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวบางกรณีเกิดความล่าช้าและเสร็จสิ้นตามเงื่อนไขของกรอบระยะเวลาที่จำกัด ของนักท่องเที่ยวได้ ด้วยเหตุนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย สำนักแก้ไขปัญหาการหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (สกช.) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการหารือร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการหลอกลวงที่เกิดขึ้น และเห็นชอบร่วมกันในการจัดทำ "โครงการป้องกันปราบปรามการเอารัดเอาเปรียบหลอกลวงนักท่องเที่ยวและผู้บริโภค” เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ วันที่ ๑๕ มีนาคม – ๑๕ มิถุนายน 2556 ซึ่งกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ จำนวน 4 ชุด ได้แก่
1.ชุดบัญชาการและอำนวยการ ทำหน้าที่ควบคุมกำกับการ
2. ชุดป้องกันปราบปราม ทำหน้าที่เฝ้าระวังในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญที่เป็นจุดเสี่ยง
3. ชุดสืบสวน ทำหน้าที่ออกสืบสวนหาข้อมูลโดยการล่อซื้อหรือถ่ายภาพเหตุการณ์การหลอกลวงนักท่องเที่ยว
4. ชุดสอบสวน ทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจากสำนักแก้ไขปัญหา การหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด เพื่อทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวและจากสำนักแก้ไขปัญหาการหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (สกช.) ที่รับเรื่องมาจากช่องทางอื่นๆ ในการบูรณาการแก้ไขปัญหาและการปราบปรามให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป โดยจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการฯ ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศัพท์ 02 356 0650 , 02 283 1500 ต่อ 1602, 1603 ,1604 โทรสาร 02 356 0655 หรือ ที่ Email
[email protected],
[email protected] , http:// sceretery .mots.go.th หรือ www.consumer.police.go.th และ Call Centre 1135, 1166 หรือ 1155