โดย : Admin 19 ม.ค. 2567
การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา ครั้งที่ 1/2567
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2567 นางสาววนิดา พันธ์สอาด
รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา ครั้งที่ 1/2567 โดยมีผู้แทนจากกรมการท่องเที่ยว
กรมพลศึกษา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
การกีฬาแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(องค์การมหาชน) กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กรมบัญชีกลาง และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจำภูมิภาค
เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ
ZOOM
รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เปิดเผยว่าจากการที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ดำเนินโครงการอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา
อาสาสมัครเหล่านี้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
นักกีฬา ผู้ฝึกสอนกีฬา
รวมถึงเป็นผู้สนับสนุนการดำเนินภารกิจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสนับสนุนอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา ครั้งที่ 1/2567
ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการชุดนี้
แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่มีต่อการดำเนินการอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาอย่างแท้จริง
นายมาฆะ ภู่จินดา ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบบริหาร
ในฐานะกรรมการและเลขานุการ กล่าวว่าเนื่องจากการประชุมในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3
แต่เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันจึงได้มีการชี้แจงให้ที่ประชุมได้ทราบถึงที่มาของการดำเนินโครงการอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา
โดยมีองค์ประกอบหลักที่สำคัญ ดังนี้
1. การจัดทำระเบียบกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ว่าด้วยอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. 2565
ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์
2565 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 เพื่อเป็นหลักปฏิบัติสำหรับผู้เกี่ยวข้อง
2. การพัฒนาระบบและการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่
(Big
data) เชื่อมโยงโครงข่ายอาสาสมัครการท่องเที่ยวและกีฬา
เพื่อยกระดับความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวของประเทศ โดยระบบดังกล่าวมีองค์ประกอบที่สำคัญคือ
ระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ ของอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา
ระบบบริหารจัดการอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา ครอบคลุมขั้นตอนตั้งแต่ (1) การสมัครเป็นอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา (2)
แนบเอกสารและตรวจสอบเอกสาร (3) เข้ารับการอบรม (4) ผ่านการประเมินความรู้ความสามารถตามหลักสูตร (5)
ขึ้นทะเบียนอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา และ (6)
ออกบัตรประจำตัวอาสาสมัครท่องเที่ยว และกีฬา
รวมถึงการรายงานผลการปฏิบัติงานของอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา
3. การพัฒนาอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาคือการจัดฝึกอบรมผู้ที่มีจิตอาสาเข้ามาร่วมเป็นอาสาสมัคร
ท่องเที่ยวและกีฬาในหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง และเมื่อจบการอบรมจะมีการประเมินมาตรฐานของผู้เข้าอบรม
จึงจะได้เป็นอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาที่มีคุณภาพและพร้อมปฏิบัติงานได้
ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ได้มีการพัฒนาไปแล้วจำนวน 23 จังหวัด คือ เชียงราย
เชียงใหม่ สุโขทัย มุกดาหาร อุบลราชธานี เลย หนองคาย บึงกาฬ กาญจนบุรี
พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง
สตูล สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ภูเก็ต และสงขลา โดยมีผู้สมัครและผ่านการเข้าสู่ระบบการเป็นอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาเป็นจำนวนทั้งสิ้น
1,000 คน
นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาถึงแนวทางการต่ออายุการเป็นอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา
เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาปฏิบัติงาน
รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กล่าวเสริมว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแท้จริงที่จะยกระดับความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวของประเทศ
โดยใช้กลไกการมีส่วนร่วมของประชาชน
ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือร่วมใจของเจ้าบ้านในการร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี
ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวและกีฬาที่ดีของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป